เมื่อพูดถึงการวิ่งมาราธอนในยุคนี้เชื่อว่าคนหลายกลุ่มต่างให้ความสนใจ เพราะถือว่าเป็นกิจกรรมส่งเสริมให้สุขภาพดี อีกทั้งไม่ต้องอาศัยทักษะใดเป็นพิเศษ และยังถือว่าเป็นกิจกรรมที่สร้างอารมณ์ร่วมให้กับผู้คนได้ดี ดังจะเห็นได้จากกิจกรรมวิ่งมาราธอนเพื่อการกุศล หรือเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นมาเพื่อรวมกลุ่ม ทำให้หลายคนได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ ๆ จากกิจกรรมนี้ ซึ่งหากถามว่ากิจกรรมนี้เริ่มต้นมีที่มาอย่างไร มีจุดกำเนิดจากที่ไหนเชื่อว่าหลายคนไม่ทราบเบื้องลึกเบื้องหลัง วันนี้เราจะชวนมาทำความรู้จักกับจุดเริ่มต้นของการ วิ่งมาราธอน มาย้อนอดีตไปพร้อมกันดีกว่า ว่า มาราธอนคืออะไร เกิดจากอะไร หากอยากวิ่งบ้างจะต้องเตรียมตัวอย่างไร มาดูกันเลยดีกว่า
จุดเริ่มต้นของการวิ่งมาราธอน
การวิ่งมาราธอนเริ่มต้นจากการสู้รบของเปอร์เซีย ที่มีเป้าหมายหวังจะยึดครองยุโรปทำให้มีการจัดกำลังพลตั้งอยู่ในเมืองมาราธอน ทั้งนี้เพื่อรบกับเอเธนส์ ซึ่งการสู้รบในครั้งนั้นกรีกหรือฝั่งเอเธนส์เป็นฝ่ายชนะเพราะว่าเขามีความชำนาญในพื้นที่มากกว่าทำให้เปอร์เซียพ่ายแพ้ไปอย่างราบคาบ ซึ่งหลังจากได้รับชัยชนะมีทหารชาวกรีกชื่อฟิดิปปิเดซ เขาได้รับมอบหมายให้ส่งข่าวสารไปให้ผู้คนได้ทราบว่าฝ่ายของตัวเองเป็นผู้ชนะ การเดินทางในครั้งนั้นเขาใช้วิธีการวิ่ง ซึ่งตลอดการวิ่งนั้นเป็นไปอย่างฮึกเหิมด้วยความดีใจ เส้นทางการวิ่งกว่า 40 กิโลเมตร ที่เป็นจุดเริ่มต้นของประวัติเกี่ยวกับการวิ่งมาราธอน มาดูกันต่อว่าทำไมการวิ่งมาราธอนจึงกำหนดระยะทางอยู่ที่ 42.195 กิโลเมตร
ที่มาที่ไปของระยะทาง 42.195 กิโลเมตรระยะทางมาตรฐานของการวิ่งมาราธอน
มาราธอน กี่กิโล หลายคนอาจสงสัย สำหรับตัวเลขนี้เกิดขึ้นเมื่อในปี 1908 ประเทศลอนดอนได้จัดงานโอลิมปิกและได้มีการกำหนดระยะทางจากจุดสตาร์ทไปยังเส้นชัยโดยมีระยะทางที่ 42.195 กิโลเมตร แล้วพวกเขาเชื่อว่านี่คือตัวเลขที่ดีที่สุด ต่อมาจึงมีการจัดงานวิ่งมาราธอนโดยยึดตัวเลขนี้มายังต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับการนำมากำหนดในรายการวิ่งมาราธอนของไทยรวมระยะทางของการวิ่งมาราธอนก็อยู่ที่ 42.195 กิโลเมตรเช่นกัน
มาราธอนครั้งแรกในไทยเกิดขึ้นเมื่อไหร่
การวิ่งมาราธอนครั้งแรกในไทยเกิดขึ้นเมื่อปี 2528 ที่จังหวัดราชบุรี โดยในงานนั้นชื่อว่าจอมบึงมาราธอน ซึ่งในการจัดงานครั้งนั้นไม่เพียงเปิดให้มีรายการวิ่งมาราธอน 42.195 กิโลเมตรเท่านั้นยังมีรายการวิ่งในระยะมินิมาราธอนหรือ 10 กิโลเมตรด้วย ซึ่งในตอนนั้นมีผู้เข้าแข่งขันไม่ถึง 100 คนเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้รับความสนใจแต่ก็ไม่ได้มากเท่าไหร่เมื่อเทียบกับปัจจุบันนี้ แต่ความเปลี่ยนแปลงเห็นได้ชัดในเวลา 2 ปีต่อมาเราได้มีงานวิ่งมาราธอนที่ใหญ่ที่สุดที่จัดขึ้นในประเทศไทย นั่นก็คืองานวิ่งลอยฟ้าเฉลิมพระเกียรติ เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อฉลองการเปิดสะพานพระราม 9 จัดอย่างยิ่งใหญ่เพราะเป็นงานวิ่งระดับนานาชาติมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาร่วมการแข่งขัน โดยกำหนดให้แข่งขันอยู่ที่ระยะทาง 10 กิโลเมตรแต่มีผู้สมัครถึง 80,000 คนเลยทีเดียว ในการแข่งขันข้างล่างจึงยืนยันได้ว่าการวิ่งมาราธอนเริ่มเป็นที่นิยมแล้ว
อยากวิ่งมาราธอนเริ่มต้นยังไงดี
ปัจจุบันนี้ผู้คนหันมาดูแลสุขภาพยิ่งขึ้นและเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ เช่นเดียวกับการวิ่งมาราธอนมีหลายคนที่ให้ความสนใจ ต่างอยากเข้าร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเพราะเป็นระยะทางการวิ่งที่ไม่น้อยเลยทีเดียว หากคุณต้องการวิ่งระยะทางไกลแบบนี้สิ่งสำคัญต้องฝึกฝนตัวเองอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงพร้อมที่จะวิ่งในระยะทางไกล ดูกันว่าหากคุณอยากวิ่งมาราธอนต้องเริ่มต้นยังไงดี
1. เริ่มต้นออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องและมีความสม่ำเสมอ
2. อัประยะ นอกจากออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องแล้วเพื่อฝึกฝนให้คุณมีร่างกายที่แข็งแรงพร้อมวิ่งในระยะทางไกลแนะนำให้ค่อยๆเริ่มวิ่งจาก 5 กิโลเมตร นับระยะขึ้นเมื่อร่างกายพร้อมเป็น 10 กิโลเมตร และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อฝึกสูงการวิ่งของตัวเอง
3.ในการแข่งขันครั้งแรกอาจลงรายการวิ่งมินิมาราธอน เพราะในรายการวิ่งมาราธอนมักจะมีให้เลือกทั้งมินิมาราธอน ฮาฟมาราธอน ฟูลมาราธอน ซึ่งแต่ละรายการจะมีระยะทางที่แตกต่างกัน จุดเริ่มต้นที่ดีคือการเริ่มวิ่งระยะทางที่ใกล้ที่สุดเพื่อทดสอบความพร้อมของร่างกาย
4.ขนาดฝึกซ้อมการวิ่งอย่าลืมจับเวลา เพราะรายการวิ่งมาราธอน จะมีเวลาเป็นตัวกำหนดราว 1 ชั่วโมงกว่า ขณะฝึกวิ่งควรตั้งเป้าหมายว่าต้องวิ่งได้กี่กิโลเมตรภายใน 45-50 นาที เช่น เริ่มต้นด้วย 5 กิโลควรกำหนดวิ่งอยู่ในระยะเวลา 30 นาที หลังจากนั้นก็เพิ่มสปีดให้กับตัวเองมากยิ่งขึ้นเพื่อทดสอบว่าร่างกายไหวหรือเปล่า
หัวใจสำคัญของการฝึกวิ่งมาราธอน
จริงอยู่การวิ่งนี้ไม่ได้ใช้ทักษะอะไรมากแต่หากมองลงลึกไปแล้ว คุณเคยสังเกตไหมว่าทำไมนักวิ่งบางคนสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลได้ดูลื่นไหลเป็นธรรมชาติ นั่นเพราะเขาผ่านการฝึกฝนรวมถึงการดริล หรือการฝึกเพื่อสร้างความแข็งแรงและความชำนาญในการเคลื่อนไหว ทำให้คุณสามารถวิ่งได้อย่างชำนาญทุกอย่างจะลื่นไหลไม่ติดขัด ทำให้การวิ่งมีประสิทธิภาพ เทียบได้กับมือใหม่ที่ฝึกวิ่งเพียงไม่นานและมาลงแข่งขันจะพบว่าในการวิ่งเริ่มต้นรู้สึกได้ว่าถ้าไม่สวยหรือขาหนักยกไม่ขึ้น การฝึกดริลจะช่วยให้ปัญหานี้หมดไปเพราะเป็นการกระตุ้นกล้ามเนื้อที่ต้องใช้ในการวิ่ง ทำให้เครื่องติดเร็วพร้อมให้คุณวิ่งไปสู่เส้นชัย สำหรับการฝึกท่าวิ่งให้ถูกต้องไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงฝึกฝนอย่างต่อเนื่องและทำทุกวันหรือทำได้บ่อยเท่าที่ต้องการ เช่นท่ายกเข่าสูง ข้อดีคือช่วยบริหารท้องและต้นขา รวมถึงสะโพก
วิธีฝึกคือ
- ยืดตัวตรงจากนั้นแยกขาออกเล็กน้อย
- ย่อตัวลงและคุกเข่าให้เขาเกือบติดพื้นจากนั้นใช้มือทั้งสองข้างยันไว้กับพื้น
- ออกแรงยันขาทั้งสองข้างให้ไปข้างหลัง ในขณะที่มือทั้งสองข้างก็ยังพื้นไว้เหมือนเดิมในท่าวิดพื้น
- ออกแรงเดินขากลับมาข้างหน้าจากนั้นลุกขึ้นกระโดดชูแขน
เมื่อทำครบทั้ง 4 ขั้นตอนแล้วถือว่าจบ 1 ครั้ง
นอกจากนั้นยังมีท่าบริหารและออกกำลังกายเพื่อฝึกฝนร่างกายอีกมากมายที่ช่วยส่งเสริมให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัว เพื่อเตรียมตัวลง วิ่งมาราธอน คุณสามารถฝึกวิ่งที่สวนสาธารณะหรือสนามกีฬาที่มีลู่วิ่งก็ได้ ซึ่งแนะนำว่าควรเป็นทางเรียบเพื่อให้การฝึกฝนของคุณลดความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ จากนั้นฝึกวิ่งไปเรื่อย ๆ ตามคำแนะนำแล้ววันหนึ่งคุณจะสามารถวิ่งพิชิตมาราธอนได้อย่างแน่นอน Ufabet เว็บหลัก