การ แข่งรถ ประลองความเร็วและขุมพลังเครื่องยนต์

         นอกเหนือจากการประกอบสัมมาอาชีพเพื่อสร้างรายได้แล้ว รอบตัวเราก็มีกิจกรรมให้ทำอีกมากมาย โดยเฉพาะกิจกรรมที่สร้างความระทึกใจ สร้างความตื่นเต้น และรู้สึกท้าทาย ล้วนเป็นสีสันให้กับชีวิตที่อาจจะเคร่งเครียดจากงานหรือแรงกดดันต่าง ๆ ได้ค่อนข้างดี สำหรับใครที่ชื่นชอบการขับรถคงจะทราบดีว่ามีกิจกรรมเกี่ยวกับการ แข่งรถ อยู่ด้วย ซึ่งเป็นกลุ่มกิจกรรม Motor sports ที่เปิดสนามการแข่งให้เข้าไปร่วมกิจกรรมอย่างแพร่หลาย

ที่มาของการแข่งขัน Motor sports

         การ แข่งรถ หรือ Motor sports เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการประลองความเร็วของรถยนต์ มีการบันทึกไว้ว่าการประลอง Motor sports ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อราว ๆ ค.ศ. 1894 ที่กรุงปารีส และมีชื่อเรียกว่าปารีสรูออง โดยมีจุดประสงค์เพียงเพื่อพิสูจน์ศักยภาพของรถยนต์ที่ถูกผลิตออกมาในยุคแรก ๆ ว่ารถยนต์ของแต่ละบริษัทมีความโดดเด่นอย่างไรบ้าง มีระยะทางการแข่งขันเพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น ในการแข่งขันครั้งนั้นได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นจำนวนมาก

            การแข่งขันรถยนต์เล็ก ๆ ที่เคยได้รับความสนใจในปารีสคราวนั้นถูกพัฒนาต่อยอดมาเป็นการแข่งขันบนสนามแข่งที่กว้างขึ้น วงการ Motor sports จึงเผยแพร่ออกไปหลายพื้นที่รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย ซึ่งความนิยมการแข่ง Motor sports ในประเทศไทยมีมานานกว่า 80 ปีได้แล้ว โดยความนิยมนี้ถูกนำเข้ามาเผยแพร่โดยคนไทยที่ได้ไปร่วมการแข่งและสร้างชื่อเสียงที่สนามยุโรปกลับมาด้วย

ขอบเขตของ Motor sports ในปัจจุบัน

            แม้ว่าการแข่ง Motor sports จะมีต้นฉบับมาจากการแข่งรถยนต์ แต่ในปัจจุบันกิจกรรมประเภท Motor sports ขยายวงกว้างออกไป โดยให้นิยามว่าเป็นกิจกรรมที่ใช้งานผ่านมอเตอร์และอาศัยความเร็ว ซึ่งกิจกรรมการแข่ง Motor sports ที่ขยายขอบเขตออกมาแบ่งเป็นหมวดหมู่ได้ชัดเจนตามลักษณะของพาหนะที่ใช้งาน การแข่งจัดบนบกจะใช้รถยนต์และ แข่งรถมอเตอร์ไซค์ กิจกรรมทางน้ำจะใช้เรือ และกิจกรรมทางอากาศจะใช้เครื่องบิน ทั้งหมดที่กล่าวไปเป็นพาหนะที่ต้องแข่งขันด้านความเร็วเพื่อวัดศักยภาพเครื่องยนต์ว่ามีสมรรถนะเหนือกว่าคู่แข่งมากแค่ไหนนั่นเอง

การแข่งขัน Motor sports ประเภทรถยนต์

         แม้ว่าการแข่งขัน Motor sports จะขยายขอบเขตออกไปทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศแล้ว แต่ใช่ว่าความนิยมในการแข่งประเภทรถยนต์ที่เป็นต้นกำเนิดของการแข่ง Motor sports ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในปัจจุบันจะถูกลดทอนไป กลับยิ่งเพิ่มความนิยมให้มากขึ้นจนแตกแขนงสายการแข่งออกมาถึง 5 ประเภทเลยทีเดียว ได้แก่

            – การแข่งแบบเซอร์กิต ให้นิยามแบบเข้าใจง่ายว่าเป็นการแข่งบนพื้นเรียบที่ผสมทางตรงและทางโค้ง เป็นการแข่งที่ต้องใช้ไหวพริบในการทำเวลาและบริหารเชื้อเพลงให้เหมาะสม วัดผลกันที่ความเร็ว

            – การแข่งแบบดริฟต์ เป็นการแข่งที่ตัดสินกันที่ลีลาการเข้าโค้งได้อย่างโดดเด่น เพราะใจความสำคัญของการ

ดริฟต์คือผู้เข้าแข่งจะต้องเล่นกับการเข้าโค้งอย่างไรให้สวยงามและไม่หลุดโค้ง จัดการหน้ายางและควบคุมพวงมาลัยให้ดี

            – การแข่งแบบแดร็ก เป็นการชิงความเร็วบนการแข่งทางตรง มีระยะทางที่สั้นจบเกมได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่เป็นเกมที่เน้นให้ลุ้นว่าผู้เล่นฝ่ายไหนมีขุมพลังเครื่องยนต์ที่ดีกว่าและเข้าเส้นชัยได้เร็วกว่า

            – การแข่งแบบแรลลี่ เป็นการแข่งที่ต้องอาศัยบุคคล 2 คนที่ทำหน้าที่เป็นคนขับและอีกคนคอยบอกทางทำงานร่วมกันเพื่อไปให้ถึงเส้นชัย สนามที่ใช้แข่งเป็นเส้นทางพื้นดินที่ออกไปทางขรุขระ เป็นถนนที่ค่อนข้างสัญจรลำบากและมีอันตราย ซึ่งการแข่งลักษณะนี้จะมีกำหนดเวลาในการออกจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่ง และต้องทำเวลาให้ได้ตามกำหนด โดยผู้นำทางจะต้องมีความสามารถบอกทิศทางให้คนขับอย่างแม่นยำเพื่อไม่ให้หลงทางและทำเวลาได้ตามกำหนด

            – การแข่งแบบยิมคาน่า เป็นการแข่งบนสนามที่ตั้งสิ่งกีดขวางไว้เพื่อกำหนดระยะโค้ง ซึ่งโค้งค่อนข้างถี่และมีความแคบ การวัดผลจะต้องทำเวลาเข้าเส้นชัยให้น้อยที่สุด เป็นการแข่งที่ไม่ได้เน้นความตื่นเต้นในการขับขี่ เน้นใช้ทักษะการขับรถที่ใช้อยู่ในชีวิตจริง เพราะรถที่ใช้มีความเร็วปานกลางค่อนไปทางต่ำส่วนใหญ่ก็เป็นรถที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน

เปิดสนามแข่งรถที่ได้มาตรฐานในประเทศไทย

         – สนามพีระอินเตอร์เนชั่นแนวเซอร์กิต เปิดให้บริการมานานกว่า 30 ปี ระยะความยาว 2,410 เมตร กับ 13 โค้ง การันตีมาตรฐานจากสมาพันธ์กีฬาแข่งรถนานาชาติ ตั้งอยู่ที่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

            – สนามไทยแลนด์เซอร์กิต สนามแข่งทางเรียบยาว 2,500 เมตร เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 30 ปี ได้มาตรฐานระดับนานาชาติ ตั้งอยู่ที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม

            – สนามบางแสน สตรีท เซอร์กิต เป็นสนามที่มีชื่อเสียงในระดับสากล ต่างชาติให้การยอมรับ เขตสนามจะใช้เส้นทางจราจรที่ผ่านชายหาดบางแสน-แหลมแท่น-เขาสามมุข ซึ่งจะพบกับรูปแบบโค้งที่สร้างความท้าทายตลอดเส้นทาง

            – สนามแก่งจานเซอร์กิต มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพราะสนามแข่งจะอาศัยรูปแบบทางภูมิศาสตร์อันเป็นที่ตั้ง จึงมีเนินให้ขึ้นลงบ่อย ระยะความยาว 2,912 เมตร ตั้งอยู่จังหวัดเพชรบุรี

            – สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เป็นสนามที่เพิ่งเปิดมาใหม่แต่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับนานาชาติ ระยะความยาว 4,554 เมตร พร้อมด้วย 12 โค้ง ตั้งอยู่จังหวัดบุรีรัมย์

            รายชื่อ สนามแข่งรถยนต์ ที่บอกไปข้างต้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสนามแข่งรถที่เปิดให้บริการอยู่ในประเทศไทย ซึ่งยกมาแนะนำเพียงบางสนามที่ได้รับความนิยมสูงสุดเท่านั้น แต่ผู้ที่สนใจใช้บริการสนามแข่งอื่น ๆ ก็สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้เช่นกัน

การ แข่งรถ ความท้าทายที่ไม่เคยตกกระแส

         กิจกรรมสุดท้าทายอย่างการ แข่งรถ เปิดสนามประลองให้ผู้ที่สนใจได้เข้าใช้บริการอย่างแพร่หลาย ซึ่งกิจกรรมนี้ก็ได้รับความนิยมมายาวนานทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เฉพาะภายในประเทศเองก็มีสนามแข่งเพื่อแสดงศักยภาพของนักแข่งให้เลือกมากมาย ซึ่งการแข่งประเภทยานยนต์เหล่านี้เป็นกิจกรรมที่ถูกบรรจุให้เป็นกีฬาที่มีมาตรฐานการแข่งในระดับสากล การแข่งระดับเข้มข้นจึงมีการเปิดสนามแข่งอยู่ตลอดฤดูกาล

สรุป           

ตามหน้าสื่อเองก็มีการเผยแพร่ภาพการแข่งขันรถอยู่เป็นประจำ แม้แต่การสร้างละครหรือภาพยนตร์ก็ยังสอดแทรกภาพการแข่งขันรถเข้าไปบ้าง จึงเชื่อได้ว่ากิจกรรมท้าทายความเร็วด้วยยานยนต์ยังคงอยู่ในความสนใจของผู้คนตลอดเวลาแม้จะล่วงเลยเวลามานานแล้ว Ufabet เว็บหลัก